(Google 번역 제공) 체디 왓 프라야 왓
#난 국립 박물관과 함께 위앙 포 왓 방문
에피소드... "체디 왓 프라야 왓"
--- 체디 왓 프라야 왓은 난 주, 므앙 난 구, 두 따이 소구역, 왓 프라야 왓 내에 위치해 있습니다. 란나 미술 초기 시대에만 나타나는 특별한 형태를 지닌 성 모양의 체디 중 하나입니다. 람푼 주에는 체디 쿠 쿳, 왓 참데비, 그리고 왓 프라탓 하리푼차이 지역에 있는 수완나 체디 두 개가 있으며, 17~18세기 불교 시대로 추정됩니다. 또한 치앙마이 주에도 체디 쿠 캄, 왓 쿠 캄, 위앙 쿰 캄과 같은 유사한 양식의 체디가 있습니다.
--- 체디 왓 프라야 왓은 성 모양의 정사각형 체디입니다. 바닥은 네 개의 정사각형 판자를 정사각형 평면으로 쌓아 만든 것입니다. 다음은 뒤집힌 연꽃 단과 나무 바닥이 유리구슬로 장식된 체디(Chedi)입니다. 5단 체디로 이루어진 성 모양의 탑으로, 각 단에는 벽감(nich)이 있으며, 각 면에 3개씩 총 60개의 불상이 안치되어 있습니다. 벽감은 곡선으로 되어 있으며 란나 덩굴 무늬로 장식되어 있습니다. 체디의 윗면은 사각형 원뿔 모양으로 서로 겹쳐져 있으며, 윗면 또한 사각형 원뿔 모양입니다.
--- 이전 연구에 따르면 왓 프라야 왓 사원의 양식은 람푼 주 므앙 구 왓 쿠쿳 사원에서 모방한 것으로 추정되며, 21세기 불교 시대로 거슬러 올라갈 수 있는 건축 기법과 건축 요소(란나 포도나무 무늬의 스투코 패턴 장식, 수직으로 배열되어 바깥쪽을 향한 벽돌로 곡선형 틈새 형태의 틈새 건설 등)가 있기 때문에 나중에 지어졌을 가능성이 높습니다. 이는 21세기 불교 시대 란나 예술에서 인기 있는 양식으로, 같은 시기에 지어진 쿠 프라 차오 틸로카랏, 왓 쳇 욧, 치앙마이 주 므앙 구 왓 록 몰리 사원과 같은 란나 스타일의 틈새 사원의 영향을 받았을 가능성이 있습니다.
--- 또한, 틈새를 장식하는 회반죽 부처상의 양식은 여전히 타원형 얼굴, 불꽃 모양의 후광, 배꼽까지 닿는 옷자락 등 21세기 불교 시대의 일반적인 란나 부처상과 동일한 특징을 가지고 있습니다.옷을 입는 방식, 허리띠, 앞쪽으로 접힌 옷자락, 아래로 드리워진 옷자락은 난성 푸피앙구 왓 나팡의 걷는 부처상과 유사합니다.--- 요약하자면, 왓 프라야왓의 탑의 예술적 양식으로부터 21세기경에 건립된 것으로 추정되는데, 일반적으로 건립되는 란나 예술의 탑과는 다른 특별한 예술적 양식을 가진 탑인 람푼성의 쿠쿳 탑에서 영감을 받았을 가능성이 있습니다.따라서 오늘날까지 증명되듯이 난성에서 건립되었습니다.
(원문)
เจดีย์วัดพญาวัด
#แอ่วเวียงผ่อวัดกับพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติน่าน
ตอน... "เจดีย์วัดพญาวัด"
--- เจดีย์วัดพญาวัด ตั้งอยู่ภายในวัดพญาวัด ตำบลดู่ใต้ อำเภอเมืองน่าน จังหวัดน่าน เป็นหนึ่งในเจดีย์ทรงปราสาทยอดที่มีรูปแบบพิเศษ ซึ่งปรากฏเฉพาะในศิลปะล้านนาระยะแรกเพียงไม่กี่แห่ง โดยปรากฏที่จังหวัดลำพูน ๒ แห่ง ได้แก่ เจดีย์กู่กุด วัดจามเทวี และสุวรรณเจดีย์ ในบริเวณวัดพระธาตุหริภุญชัย กำหนดอายุราวพุทธศตวรรษที่ ๑๗ - ๑๘ นอกจากนั้นยังมีเจดีย์รูปแบบที่คล้ายคลึงกันนี้ที่จังหวัดเชียงใหม่ คือ เจดีย์กู่คำ วัดกู่คำ เวียงกุมกาม
--- เจดีย์วัดพญาวัด มีลักษณะเป็นเจดีย์สี่เหลี่ยมทรงปราสาทยอด ส่วนฐานทำเป็นหน้ากระดานสี่เหลี่ยมซ้อนกัน ๔ ชั้น ในผังสี่เหลี่ยมจัตุรัส ถัดขึ้นไปเป็นชั้นบัวคว่ำ และท้องไม้มีประดับลูกแก้วอกไก่ ,ส่วนเรือนธาตุ เป็นเจดีย์ทรงปราสาทที่มีชั้นเรือนธาตุซ้อนชั้นลดหลั่นขึ้นไป ๕ ชั้น แต่ละชั้นมีซุ้มจระนำประดิษฐานพระพุทธรูปปูนปั้นประทับยืน ด้านละ ๓ องค์ รวมทั้งหมด ๖๐ องค์ ลักษณะของซุ้มจระนำก่อเป็นวงโค้งและมีการประดับลวดลายเครือล้านนา, ส่วนยอดของเรือนธาตุ มีลักษณะเป็นทรงกรวยสี่เหลี่ยมซ้อนกันขึ้นไปเป็นชั้นๆ และมีปลียอดด้านบนสุดเป็นทรงกรวยสี่เหลี่ยมเช่นเดียวกัน
--- จากการศึกษาที่ผ่านมา มีข้อสันนิษฐานว่ารูปแบบของเจดีย์วัดพญาวัดนี้ อาจจะจำลองแบบมาจากเจดีย์วัดกู่กุด อำเภอเมือง จังหวัดลำพูน โดยคงนำมาสร้างขึ้นในชั้นหลัง เนื่องจากมีเทคนิคการก่อสร้างและองค์ประกอบของสถาปัตยกรรมที่สามารถกำหนดอายุสมัยได้ในราวพุทธศตวรรษที่ ๒๑ ได้แก่ การประดับลวดลายปูนปั้นแบบลายเครือเถาล้านนา การก่ออิฐซุ้มจระนำในลักษณะซุ้มโค้งก่อเรียงอิฐในแนวตั้งและหันด้านหน้าแผ่นอิฐออก เป็นลักษณะที่นิยมในศิลปะล้านนา พุทธศตวรรษที่ ๒๑ ซึ่งอาจจะได้รับอิทธิพลจากเจดีย์ทรงเรือนธาตุ ศิลปะล้านนา ที่สร้างขึ้นในช่วงเวลาเดียวกัน เช่น กู่พระเจ้าติโลกราช วัดเจ็ดยอด และเจดีย์วัดโลกโมฬี อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่
--- นอกจากนี้ รูปแบบพระพุทธรูปปูนปั้นที่ประดับภายในซุ้มจระนำ ยังมีลักษณะเดียวกับพระพุทธรูปในศิลปะล้านนาทั่วไป ช่วงพุทธศตวรรษที่ ๒๑ อาทิ พระพักตร์รูปไข่ พระรัศมีเป็นเปลว ชายสังฆาฏิยาวลงมาจรดพระนาภี โดยลักษณะการครองจีวร แนวรัดประคด ชายพับขอบสบงทางด้านหน้า และแนวขอบชายจีวรที่ทิ้งชายลงมาทางด้านล่างคล้ายคลึงกับพระพุทธรูปปางลีลาที่วัดนาปัง อำเภอภูเพียง จังหวัดน่าน
--- กล่าวโดยสรุปได้ว่า จากรูปแบบทางศิลปกรรมของเจดีย์วัดพญาวัด สันนิษฐานว่าคงถูกสร้างขึ้นในราวพุทธศตวรรษที่ ๒๑ โดยอาจจะได้แรงบันดาลใจในการสร้างมาจากเจดีย์กู่กุด จังหวัดลำพูน ซึ่งเป็นเจดีย์ที่มีลักษณะพิเศษทางรูปแบบศิลปกรรมอันแตกต่างไปจากเจดีย์ในศิลปะล้านนาที่สร้างอยู่โดยทั่วไป จึงได้นำมาสร้างขึ้นไว้ที่เมืองน่าน ดังปรากฏหลักฐานมาจนถึงปัจจุบัน